สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์เบอร์ 7 กับเบอร์ 8 ต่างกันอย่างไร
ทำไมเบอร์สกรูถึงสำคัญกว่าที่คิด
แม้สกรูจะดูเป็นวัสดุเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่ในความจริงแล้ว สกรู คือชิ้นส่วนสำคัญที่กำหนดความแข็งแรงของงานติดตั้งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น งานแผ่นเมทัลชีท, งานยึดโครงไม้, งานฝ้า, หรือแม้แต่งานตกแต่งภายใน และสิ่งที่หลายคนมักพลาด คือ เลือกเบอร์สกรูไม่เหมาะกับงาน เช่น ใช้เบอร์ใหญ่ไปจนเจาะทะลุ หรือเล็กเกินจนยึดไม่แน่น ทำให้โครงสร้างไม่มั่นคง เกลียวรูด หรือวัสดุฉีกขาด โดยเฉพาะในกลุ่ม สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์ (Taper Head Screw) ซึ่งนิยมใช้ในงานเมทัลชีท งานยึดแผ่นบาง และงานตกแต่ง ความแตกต่างระหว่าง เบอร์ 7 กับเบอร์ 8 จึงมีผลต่อทั้งความแน่น ความเร็วในการเจาะ และความเรียบร้อยของงาน
รู้จัก สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์ ให้มากขึ้น
สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์ (Taper Head Self Drilling Screw) เป็นสกรูที่มี หัวเรียวแหลมทรงกรวย และ ปลายสว่านเจาะในตัว ช่วยให้สามารถยึดวัสดุได้โดยไม่ต้องเจาะรูนำก่อน
จุดเด่นของหัวเตเปอร์ : หัวเรียบแนบกับผิววัสดุ ดูสวยงาม เหมาะกับงานภายใน เช่น ฝ้า ผนัง แผ่นไม้ หรืออลูมิเนียม ใช้กับเครื่องสว่านไฟฟ้าทั่วไปได้ มีขนาดและความยาวหลายแบบให้เลือก
ลักษณะงานยอดนิยม : ยึดแผ่นเมทัลชีทบาง ติดตั้งฝ้าเพดาน ยึดผนังเบา งานตกแต่ง และงานประกอบที่ต้องการความเรียบร้อย
เบอร์สกรูคืออะไร?
เบอร์สกรู คือหน่วยบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสกรู โดยเบอร์ที่มากขึ้น หมายถึง สกรูมีขนาดใหญ่ แข็งแรง และสามารถยึดวัสดุได้หนาขึ้น
รายการเปรียบเทียบ | เบอร์ 7 | เบอร์ 8 |
เส้นผ่านศูนย์กลาง | 3.9 มม. | 4.2 มม. |
น้ำหนักและแรงขัน | เบากว่า ขันง่าย | หนักกว่า แข็งแรงกว่า |
ความหนาวัสดุที่เจาะได้ | เหล็กบาง 2.0 มม. | เหล็กบาง-กลาง 3.0 มม. |
ความสวยงามหลังติดตั้ง | เรียบเนียน เหมาะกับงานตกแต่ง | ยึดแน่น เหมาะกับงานกึ่งโครงสร้าง |
ความเร็วในการเจาะ | เร็วกว่า เพราะแรงต้านต่ำ | ช้ากว่าเล็กน้อย แต่แน่นกว่า |
การใช้งานที่แนะนำ | งานฝ้า ผนังเบา เมทัลชีทบาง | งานหลังคาเหล็กบาง งานโครงเหล็กเบา |
วิธีเลือกใช้เบอร์สกรูให้เหมาะกับลักษณะงาน
1. งานแผ่นเมทัลชีทบาง (0.30.5 มม.)
เลือกใช้ เบอร์ 7 จะช่วยให้เจาะได้เร็ว ไม่ทะลุเกิน และหัวสกรูเรียบไปกับแผ่นสวยงาม
2. งานโครงเหล็กเบา หรืออลูมิเนียม
ถ้าเป็นโครงขนาดบาง (1.52.0 มม.) สามารถใช้เบอร์ 8 เพื่อให้ยึดแน่นกว่า และลดการหลวมในระยะยาว
3. งานฝ้าและผนังเบา
ใช้ เบอร์ 7 เพราะหัวเล็กและไม่ดันวัสดุให้โป่ง เหมาะกับงานที่ต้องการความเรียบเนียน
4.งานตกแต่งหรือประกอบชิ้นส่วนภายใน
ควรเลือกเบอร์ 7 ที่มีหัวเตเปอร์เรียวและปลายสว่านเล็ก ทำให้ไม่แตกวัสดุและได้งานสวย
เคล็ดลับการเลือก เบอร์สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์ ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
1.ดูความหนาของวัสดุก่อนเสมอ
- ถ้าวัสดุบางกว่า 2 มม. เบอร์ 7
- ถ้าวัสดุหนากว่า 2 มม. เบอร์ 8
2.ใช้สกรูที่ผ่านการชุบคุณภาพดี เช่น ชุบขาวหรือชุบซิงค์ป้องกันสนิม
เพราะงานภายในบางส่วนยังมีความชื้น เช่น ห้องน้ำหรือเพดานใกล้ชายคา
3.ใช้สว่านรอบต่ำแต่แรงบิดสูง เพื่อป้องกันหัวสกรูเสียและเกลียวรูด
4.อย่าขันแน่นเกินไป เพราะหัวเตเปอร์ออกแบบให้แนบเรียบ หากขันแรงเกินไปอาจทำให้วัสดุบิดงอหรือหัวจม
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยในการเลือกเบอร์สกรู
X ยิ่งเบอร์ใหญ่ยิ่งดี จริงเพียงบางกรณี เพราะถ้าเจาะแผ่นบางด้วยเบอร์ใหญ่เกินไปจะทำให้ทะลุหรือบานเกลียว
X ใช้สกรูอะไรก็เหมือนกัน ผิดแน่นอน เพราะแต่ละเบอร์ถูกออกแบบมาสำหรับความหนาวัสดุที่แตกต่างกัน
เลือกเบอร์ให้เหมาะกับงาน = ประสิทธิภาพสูงสุด
การเลือกใช้ สกรูปลายสว่านหัวเตเปอร์เบอร์ 7 หรือเบอร์ 8 ไม่ได้ต่างกันเพียงแค่ ขนาด แต่มีผลต่อความแข็งแรง ความเร็วในการติดตั้ง และความเรียบร้อยของผลงานโดยตรง
- งานตกแต่งภายใน ฝ้า หรือแผ่นบาง เลือกเบอร์ 7
- งานเมทัลชีทหรือโครงเหล็กเบา เลือกเบอร์ 8
อย่าลืมเลือกสกรูที่ได้มาตรฐานการผลิต มีการชุบกันสนิม และปลายสว่านคม เพื่อให้งานของคุณทั้ง แน่น เรียบ และทนทานในระยะยาว
ถ้าคุณกำลังมองหาสกรูปลายสว่านคุณภาพดี ผลิตในประเทศไทย AKN Fasteners คือคำตอบครบจบในที่เดียว
AKN Fasteners โรงงานผลิตสกรูปลายสว่านในประเทศไทย
รับผลิต OEM และจำหน่ายตรงจากโรงงาน
สกรูคุณภาพสูง มาตรฐานอุตสาหกรรม ทนสนิม ทนแรงบิด ใช้งานได้ทั้งเหล็กและเมทัลชีท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aknfasteners.com